โครงการ " รู้รัก รู้ป้องกัน รู้ทันโรคเอดส์ "

โครงการ " รู้รัก รู้ป้องกัน รู้ทันโรคเอดส์ "

วันศุกร์ที่ 16 สิงหาคม 2556

ณ วิทยาลัยอาชีวศึกษาสุราษฎร์ธานี

โดย นักศึกษาชั้น ปวส.1 สาขาวิชาการพัฒนาเว็บเพจ

 

โครงการ " วันแม่แห่งชาติ "

โครงการ " วันแม่แห่งชาติ "

ณ ศาลากลาง จังหวัดสุราษฎร์ธานี

วันที่ 12 สิงหาคม 2556  เวลา 18.00-20.00 น.

โดย นักศึกษา ปวส.1 สาขาวิชาการพัฒนาเว็บเพจ

วิทยาลัยอาชีวศึกษาสุราษฎร์ธานี

 

 

 

 

 

กิจกรรม " วันไหว้ครู ปีการศึกษา 2556 "

กิจกรรม " วันไหว้ครู ปีการศึกษา 2556 "

วันพุธที่ 20 มิถุนายน 2556

วิทยาลัยอาชีวศึกษาสุราษฎร์ธานี

 

 

 

 

 

 

 

 

โครงการ " ประดิษฐ์ดอกกุหลาบจากใบเตยหอม "

 

โครงการ " ประดิษฐ์ดอกกุหลาบจากใบเตยหอม "

วันศุกร์ที่ 12 กรกฎาคม 2556

นักศึกษาระดับชั้น ปวส.1 สาขาวิชาการพัฒนาเว็บเพจ

วิทยาลัยอาชีวศึกษาสุราษฎร์ธานี

 



โครงการ " ห้องน้ำสะอาด สร้างสุข "

โครงการ " ห้องน้ำสะอาด สร้างสุข "

วันศุกร์ที่ 5 กรกฎาคม 2556

นักเรียนระดับชั้น ปวส.1 สาขาวิชาการพัฒนาเว็บเพจ

วิทยลัยอาชีวศึกษาสุราษฎร์ธานี

 

การประดิษฐ์โคมไฟตั้งโต๊ะ

 

ที่มา :  http://www.youtube.com/watch?v=VnTOKwKoMfc 

แต่งหน้าชายให้เป็นหญิงแบ๊วๆ

 

ที่มา :  http://www.youtube.com/watch?v=QLb04Tcp9ms 

ASIMO

 

ที่มา : http://www.youtube.com/watch?v=eld34Clkn6Q

เทคนิคการวาดภาพคนเหมือนจริง

ที่มา : http://www.youtube.com/watch?v=Y4zX5AjOMH8

โดนัทจิ๋ว

ที่มา : http://www.youtube.com/watch?v=UyLNxbJ8kQk

8 เคล็ดลับ ขจัดความขี้เกียจ

ใครที่กำลังรู้สึกว่าตัวเอง "ขี้เกียจ" ซะเหลือเกิน ต้องเเริ่มปฏิวัติตัวเองให้หลุดจากขี้เกียจสักที เพราะความขี้เกียจจะเป็นอุปสรรคในการทำสิ่งต่างๆ ในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการเรียน การทำงาน น้องๆ หลายคนมักจะติดคำว่า "เดี๋ยว" เดี๋ยวค่อยทำ เดี๋ยวค่อยอ่าน เดี๋ยวค่อย....สารพัดเดี๋ยว 

1. ตัดคำว่า "เดี๋ยว" ออกไปจากชีวิต
2. ลบความคิดที่ว่าเรา "ทำไม่ได้" ออกจากความคิด เพราะก่อนที่จะประสบความสำเร็จ มันก็ต้องมีลองผิดลองถูกกันบ้าง อย่างที่เค้าว่าไว้ว่า "ผิดเป็นครู" ไงค่ะน้องๆ
3. เตรียมร่างกายและสมองให้พร้อม ทานอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ
4. เลือกทำในสิ่งที่รักหรือสิ่งที่ฝันก่อน เพราะถ้าเราทำอะไรในสิ่งที่ชอบโดยไม่ถูกบังคับเราก็จะมีความสุขและทำในสิ่งนั้นได้ดี
5. สร้างแรงบันดาลหรือแรงจูงใจ ว่าจะทำเพื่อใคร หรือทำแล้วจะดีอย่างไร
6. เขียนตารางบันทึก ว่าเราต้องทำอะไรในวันนี้บ้าง และได้ทำอะไรไปแล้วบ้าง เพื่อเป็นการทบทวนและกันลืมไปในตัว และทำให้ชีวิตมีระบบระเบียบมากขึ้น
7. อย่าตั้งเป้าหมายไว้สูงจนเกินไป เพราะถ้าผิดหวังหรือทำพลาดเราก็จะเสียใจมากตามไปด้วย เรียกว่าค่อยเป็นค่อยไป เช่นถ้าวันนี้เราตั้งใจอ่านหนังสือ10 หน้า พรุ่งนี้และวันถัดไปเราก็ค่อยเพิ่มจำนวนหน้าขึ้นตามลำดับ
8. ให้รางวัลกับตัวเองบ้าง เช่น ถ้าตั้งใจลดน้ำหนักและทำมาได้หลายวันแล้ว เราอาจจะกินอะไรที่เป็นของชอบบ้างสักมื้อ
9. ลงมือปฏิบัติ เพราะถ้าเราแค่คิด ต่อให้มีความคิดสร้างสรรค์สักแค่ไหนแต่ถ้าไม่ลงมือทำทุกอย่างก็เท่ากับศูนย์

ที่มา : http://webboard.yenta4.com/topic/542694

10 เคล็ดลับ เพื่อเส้นผมเงางามสุขภาพดี

ชวนสาวๆ มาดูแล เส้นผมให้สวยงาม ด้วย 10 เคล็ดลับ เพื่อเส้นผมเงางามสุขภาพดี

1.เวลาไปทำผมตามร้าน
ช่างทำผมจะจัดการอบไอน้ำให้เราระหว่างทำทรีตเมต์ เพิ่อเปิดเกล็ดผมให้ส่วนผสมซึมซาบเข้าสู่ผิวผมได้ง่าย เทคนิคนี้ทำเองที่บ้านก็ได้ค่ะ โดยชโลมครีมนวดผม แล้วใส่หมวกอาบน้ำครอบอบไว้ จากนั้นเป่าไดร์ด้วยลมร้อน
2.ขจัดสิ่งสกปรกหมักหมมทุกสัปดาห์
ใช้แชมพูสูตรดีท็อกซ์สัปดาห์ละครั้ง เพื่อกำจัดสิ่งสกปรกหมักหมม ซึ่งเป็นตัวการที่ทำให้ผมไร้ชีวิตชีวา
3.หวีผมอย่างถูกวิธี
ใช้หวีซี่ห่าง หรือแปรงทรงแบนหวีตอนผมแห้งเพื่อช่วยกระจายน้ำมันธรรมชาติในเส้นผมให้สม่ำเสมอทั่วกันจากโคนสู่ปลาย
4.เลือกอุปกรณ์แบบไอโอนิค
หมดปัญหาผมชี้ฟูด้วยไดร์เป่าผมหรือเครื่องหนีบผมตรงแบบไอโอนิค ที่จะคงความชุ่มชื่น ไม่แห้งเสียให้เส้นผม และยังช่วยให้ผมสวยเป็นเงางามด้วย
5.กินอาหารที่มีประโยชน์
อาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินอี จะช่วยบำรุงให้เส้นผมเงางาม อย่างต้นข้าวสาลีอ่อนเมล็ดทานตะวัน ลูกสน มะเขือเทศอบแห้งและอัลมอนด์
6.สระผมด้วยน้ำเย็น
น้ำร้อนจะทำให้ผมรีบแห้ง แต่น้ำเย็นจะช่วยปิดเกร็ดผม รักษาเส้นผม ทำให้ผมนุ่มและเงางามด้วย ฉะนั้น ถ้าแค่เป่าแห้งไม้ได้ทรงก็ควรใช้ลมเย็นดีกว่า
7.บีบน้ำออก
หลังจากสระผมควรบีบผมรีดน้ำออกเบาๆ ก่อนชโลมครีมนวด เพราะผมที่เปียกชุ่มจะไม่สามารถซึมซาบส่วนผสมที่จะเข้าไปบำรุงขับให้ผมเงางามได้เต็มที่
8.ใช้ผ้าซับผมให้แห้งอย่างเบามือ
การเช็ดถูผมแรงๆ จะทำให้ผมแห้งกรอบและพันกันยุ่ง ลองใชผ้าเช็ดผมแบบไมโครไฟเบอร์ที่ดูดซับน้ำได้ดีกว่าสิ หรือจะใช้เสื้อยืดเนื้อนุ่มซับไล่โคนสู่ปลายก็เวิร์กนะ
9.ขับประกายเงางามให้เรือนผม
ด้วยแฮร์สไตลิ่งเพื่อผมเงางามสูตรบางเบา ซึ่งจะช่วยเคลือบเส้นผมให้เรียบลื่น ดูเป็นธรรมชาติ และเปล่งประกายเป็นเงางาม น่าสัมผัส
10.ใช้มาส์กบำรุงผมแบบล้ำลึก
ช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้เส้นผมถึงเนื้อผมภายในผมจึงดูมีชีวิตชีวา เป็นเงางาม

ที่มา : http://webboard.yenta4.com/topic/550790

คำคม สุภาษิต สอนหญิง

ก่อนแต่งงานจงจู้จี้เลือกสามี หลังแต่งงานจงอยู่ในโอวาทของสามี

มารยาทของคนโดยเฉพาะผู้หญิง
สร้างวาสนาของตนได้เป็นอย่างดี

ผู้หญิงโดยมากฉลาดแหลมคมนัก
แต่หญิงที่ฉลาดจริงเป็นหญิงที่ซ่อนคม

ผู้หญิงน่ารักเหมือนตุ๊กตาในยามดี
และดุร้ายเหมือนเสือแม่ลูกอ่อนในยามร้าย

ครอบครัวจะรุ่งเรืองอยู่ 2 ประโยค ..ขยันกับประหยัด

โกหกเพียงครั้งเดียว...ถูกสงสัยตลอดกาล

ฟังครึ่งๆ...กลางๆ... เหมือนฟังความข้างเดียว...

ผู้หญิงมากผัว..ยังมีศักดิ์ศรีเหนือกว่า
ผู้หญิงดี..มากชู้

เปล่งวาจางาม..ยังประโยชน์ให้สำเร็จ

ถ้าจะแพ้อย่าอ่อนแอให้ใครเห็น
ถ้าอยากเป็นคนเข้มแข้งต้องแกร่งไว้
ถ้าอยากร้องก็ร้องไห้ให้หนำใจ
แต่ขอให้..ได้อะไรจากน้ำตา

 

ที่มา  : http://webboard.yenta4.com/topic/537972

25 คำเด็ด ที่คนขับรถพูดกับตำรวจ

                       1.  ซวยแล้วกู
                       2.  ผมผิดอะไรครับ
                       3.  มีอะไรเหรอ
                       4.   สวัสดีครับ..
                       5.  รู้หรือเปล่าว่าฉันเป็นใคร......
                       6.  ผมต้องรีบไปซื้อก๋วยเตี๋ยวให้ท่านผู้กอง
                       7.   รู้มั้ย พ่อผมเป็นใคร ?
                       8.   อ้าว........เจอกันอีกแล้วนะ
                       9.   ถือเบียร์กระป๋องให้หน่อยสิคุณตำรวจ เดี๋ยวผมจะได้หยิบใบขับขี่ได้สะดวก
                     10.  คุณต้องเหยียบมากกว่า 200 กม/ชม ละซิเนี่ยถึงไล่ทัน เยี่ยมจริงๆ ไม่กลัวเหรอ
                     11.  คุณคงไม่ขอดูท้ายรถด้วยหรอกใช่มั้ย
                     12.  ผมพยายามไล่ให้ทันคันหน้าน่ะ แหมลิบๆ โน้น
                     13.  เงินผมนะ ที่คุณรับอยู่ทุกเดือนน่ะ
                     14.  ทานโทษคุณไม่ได้รูดซิป
                     15.  ที่นี้ที่ไหนเหรอ แล้วผมมาอยู่นี่ได้ไง สงสัยจะละเมออีกแล้ว
                     16.  I can't speak Thai.
                     17.  ผมจะรีบไปหาเมีย
                     18.  เท่าไหร่ดีครับ
                     19.  ทำอะไรที่มันสร้างสรรค์กว่านี้ดีไหม
                     20.  ลูกผมไม่สบาย
                     21.  เออ.....รู้แล้ว
                     22.  อีกแล้วเหรอวันนี้ครั้งที่ 3 แล้วนะ
                     23.  ใบสั่งเหรอเพิ่งโดนมาเอง
                     24.  ขอโทษครับที่นั่งเต็มแล้ว ไปโบกคันอื่นเถอะ
                     25.  ยิงกูดิ มึงย้ายแน่ ! 

ที่มา : http://webboard.yenta4.com/topic/145218

 

9 วิธี ทำให้ห้องนอนเย็นฉ่ำ ประหยัดไฟ

อยากนอนในห้องนอนเย็นฉ่ำ แต่ก็กังวลกับค่าไฟ แล้ววิธีไหนบ้างที่จะทำให้ประหยัดค่าไฟได้เพิ่มขึ้น ลองอ่าน

9 วิธี ทำให้ห้องนอนเย็นฉ่ำ ประหยัดไฟ

1. ล้างแอร์ปีละครั้ง โดยถอดล้างภายในโดยช่างผู้ชำนาญ เพื่อให้แอร์ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ แถมยังช่วยยืดอายุการใช้งานและประหยัดไฟฟ้าได้ด้วย
2. ตำแหน่งแอร์ในห้องนอน ควรติดตั้งในตำแหน่งที่กระจายลมและความเย็นได้ทั่วถึงทั้งห้อง
3. การเลือกวางคอมเพรสเซอร์ ผู้ใช้แอร์ส่วนใหญ่มักจะมองข้ามความสำคัญโดยเอาคอมเพรสเซอร์ไปวางไว้ในที่ไม่เหมาะสม เช่น วางบนดาดฟ้า หรือพื้นซีเมนต์กลางแดด ควรพิจารณาโดยเลี่ยงไม่ให้ตากแดดจะเป็นการดี เพราะแสงแดดจะทำให้ท่อเดินน้ำยาแอร์เสื่อมสภาพเร็ว โดยเฉพาะฉนวนหุ้มท่อแอร์จะทำงานหนักเพื่อทำความเย็นตามที่ต้องการ ระยะห่างของแอร์กับคอมเพรสเซอร์ไม่ควรห่างกันเกิน 5 เมตร เพราะถ้ายิ่งหากจากกันก็ยิ่งต้องเดินท่อน้ำยาแอร์ไกล ทำให้เปลืองไฟฟ้า แอร์เย็นช้า อีกทั้งยังอาจต้องเสียเงินจ่ายค่าท่อส่งน้ำยาเพิ่ม ควรติดตั้งคอมเพรสเซอร์ไว้ในที่ร่มและอากาศถ่ายเทสะดวก เพื่อระบายความร้อนได้ดีขึ้นจะช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าได้มาก
4. ตั้งอุณหภูมิแอร์ที่ 25 องศา ซึ่งเป็นอุณหภูมิที่ทำให้ร่างกายรู้สึกเย็นสบายเพียงพอ และช่วยประหยัดไฟฟ้าที่สุด โดยการปรับอุณหภูมิแอร์ทุกๆ 1 องศาเซลเซียสจะช่วยประหยัดพลังงานได้ประมาณร้อยละ 10
5. ไม่นำความชื้นเข้าห้อง เช่น ไม่ควรปลูกต้นไม้หรือตากผ้าในห้องแอร์ เพราะจะยิ่งเพิ่มความชื้นทำให้แอร์ทำงานหนักขึ้น
6. ปิดผ้าม่าน ปิดประตูหน้าต่างให้สนิทขณะที่เปิดแอร์ เพื่อป้องกันไม่ให้อากาศจากภายนอกรั่วไหล่เข้ามาในห้องซึ่งจะทำให้แอร์ทำงานหนักขึ้น และสิ้นเปลืองพลังงานมากขึ้น ข้อนี้ดูจะเป็นเรื่องง่ายๆ ที่คนละเลยกันมากที่สุด
7. ไม่จำเป็นต้องเปิดพัดลมระบายอากาศ เพราะจะยิ่งทำให้แอร์ทำงานหนักขึ้น หากห้องนอนมีกลิ่นหรือต้องการระบายอากาศก่อนเปิดแอร์สัก 15 นาทีให้เปิดหน้าต่างเพื่อให้อากาศภายนอกเข้ามาแทนที่อากาศในห้องนอน จะช่วยลดกลิ่นต่างๆ ให้น้อยลงได้
8. หลีกเลี่ยงการนำเครื่องใช้ไฟฟ้าเข้ามาในห้องแอร์ เช่น ตู้เย็น หม้อต้มน้ำร้อน เครื่องชงกาแฟ ไม่ควรอยู่ในห้องแอร์เพื่อไม่ให้เป็นการเพิ่มความร้อนในห้อง ทำให้แอร์ทำงานหนักเกินไป
9. เปิดแอร์เท่าที่จำเป็น เช่น เปิดเฉพาะเมื่อต้องการจะนอน และปิดแอร์ก่อนออกจากห้องอย่างน้อยครึ่งชั่วโมง
เพียงเท่านี้ห้องนอนของคุณก็จะแอร์เย็นฉ่ำ หลับสบาย แถมประหยัดค่าไฟอีกด้วยค่ะ

ที่มา :  http://webboard.yenta4.com/topic/553197